ปัญหา "นอนกรน" เสี่ยงหยุดหายใจขณะหลับ Obstructive Sleep Apnea (OSA)

“การนอนกรน” อาจดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่ความจริงนั้นกลับแฝงไปด้วยอันตราย นอกจากจะรบกวนคนใกล้ชิดแล้ว ยังเป็นอาการของภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับจากการอุดกั้นทางเดินหายใจ มีสาเหตุเกิดจากระบบทางเดินหายใจส่วนต้นมีการตีบแคบลง ทำให้อากาศและออกซิเจนไม่สามารถเข้าสู่ปอดไปเลี้ยงร่างกายและสมอง ส่งผลให้มีปัญหาการนอนหลับที่ไม่มีคุณภาพ

โรคนอนกรน และหยุดหายใจขณะหลับ Obstructive Sleep Apnea (OSA)

โรคนอนกรนและหยุดหายใจ เกิดขึ้นเฉพาะขณะนอนหลับเท่านั้น เพราะสมองกําลังพักผ่อนทําให้กล้ามเนื้อบริเวณนี้ทํางานน้อยลง ท่อทางเดินหายใจส่วนต้นก็จะฟีบเข้าหากันเหมือนการดูดหลอดกาแฟ ส่งผลให้ออกซิเจนในเลือดต่ำ เนื่องจากขาดอากาศหายใจจึงต้องพยายามหายใจแรงขึ้น เพื่อเปิดทางเดินหายใจเมื่อสมองถูกกระตุ้นให้ตื่นบ่อยๆ ส่งผลให้รู้สึกง่วงนอนตอนกลางวัน เพลีย และไม่สดชื่น รู้สึกเหมือนพักผ่อนไม่เพียงพออาจทำให้ส่งผลกระทบอื่นๆ ตามมา เช่น

• ประสิทธิภาพการทํางานลดลง ความจําไม่ดี หงุดหงิดง่าย ง่วง หลับใน
• หากทิ้งไว้ในระยะยาวโดยไม่ได้รักษาอาจนําไปสู่ โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง อัมพฤกษ์ อัมพาต และโรคซึมเศร้า

ปัจจุบัน โรงพยาบาลหัวเฉียว มีบริการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เพื่อวางแผนการรักษาปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการนอนกรนได้อย่างตรงจุด เพื่อให้คุณและคนที่คุณรักมีสุขภาพการนอนหลับที่ดีขึ้น

การตรวจการนอนหลับ หรือที่เรียกว่า Sleep Test

คือ การตรวจสำคัญที่ใช้เพื่อวิเคราะห์การทำงานของระบบต่าง ๆ ของร่างกายระหว่างการนอนหลับ เช่น ระบบการหายใจ ระดับออกซิเจนในเลือด การทำงานของคลื่นไฟฟ้าสมอง คลื่นไฟฟ้าหัวใจ และกล้ามเนื้อ รวมถึงศึกษาพฤติกรรมบางอย่างที่เกิดขึ้นขณะนอนหลับ

ปัจจุบันถือว่าการตรวจ sleep test เป็นการตรวจที่เป็นมาตรฐานสากล (gold standard) ในการวินิจฉัยโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับชนิดอุดกั้น Obstructive Sleep Apnea (OSA) การกระตุกของกล้ามเนื้อต่างๆ รวมถึงพฤติกรรมที่ผิดปกติระหว่างการนอนหลับ เพื่อให้แพทย์สามารถนำผลการตรวจไปวางแผนหรือติดตามการรักษาได้อย่างถูกต้อง

นอกจากนี้ยังใช้พิจารณาเลือกวิธีการผ่าตัดทางเดินหายใจและใช้ติดตามผลการรักษา ตลอดจนช่วยในการวินิจฉัยโรคความผิดปกติอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการนอนได้อีกด้วย